2 ยักษ์ใหญ่วงการไอที กับปฏิบัติการทำลายกำแพง



* 2 ค่ายยักษ์ไอที 2 เริ่มปฏิบัติการทลายกำแพงข้อจำกัดแบบเดิมๆ
 
* Google Chrome ดัง 'โครม' เปลี่ยนจอคอมพ์รับอนาคต ทุกคนทำงานผ่านเบราว์เซอร์
 
* Microsoft ดัน 'แชต' สู่หน้าจอมือถือทุกเครื่องบนเครือข่ายเอไอเอส
 
* 2 จุดเปลี่ยนที่กำลังสร้างพฤติกรรมการบริโภครูปแบบใหม่ในสังคมไทย



       การเปลี่ยน แปลงครั้งสำคัญมักเกิดขึ้นเสมอในโลกปัจจุบันที่ทุกสิ่งทุกอย่างผ่านไปรวด เร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้งานคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ สองอุปกรณ์ที่กลายเป็นเสมือนดีไวซ์คู่กายคู่ใจของคนยุคนี้ สมัยนี้ที่ขาดกันไม่ได้
 
       การเปลี่ยนแปลง บนหน้าจอคอมพิวเตอร์และหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ย่อมส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนต่อพฤติกรรมการใช้งานรูปแบบใหม่ในสังคม และผู้ที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ให้กับทั้งสองหน้าจอดังกล่าวต้องเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก
 
       Google Chrome (กูเกิล โครม)
       อนาคตเบราว์เซอร์
 
       ทุก วันนี้บนเครื่องคอมพิวเตอร์ของทุกคนเมื่อต้องการเข้าใช้งานอินเทอร์เน็ต ก็ต้องผ่านอินเทอร์เน็ตเอ็กซ์พลอเรอร์ที่ติดตั้งมาไว้ในทุกเครื่อง หรือไม่ก็อาจจะใช้เบราว์เซอร์ตัวอื่นๆ ในการเข้าถึงโลกอินเทอร์เน็ต
 
       แต่เมื่อกูเกิลมีการเปิดตัวเว็บเบราว์เซอร์
Google Chrome (กูเกิล โครม) กูเกิลต้องการที่จะให้ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์เปลี่ยนใจมาเลือกใช้บริการเว็บเบราว์เซอร์นี้
 
       'กูเกิล โครมได้รับการพัฒนาสำหรับเว็บในปัจจุบัน และพร้อมรองรับแอปพลิเคชั่นต่างๆ ในอนาคต'
 
       เป็นคำกล่าวของ แอนดรู แมคกลินชีย์ หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์กูเกิล ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
 
       กูเกิลมองว่าในยุคเริ่มแรกของอินเทอร์เน็ต เว็บเพจต่างๆ มักจะประกอบด้วยข้อความภาษาอังกฤษ แต่ปัจจุบันเว็บได้พัฒนาไปสู่แพลตฟอร์มหลายภาษาที่รองรับการใช้งานทั่วโลก ช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำงานร่วมกับเพื่อนฝูงและเพื่อนร่วมงานผ่านทางไซต์สังคม ออนไลน์ อีเมลและเว็บแอปพลิเคชั่นอื่นๆ รวมทั้งแก้ไขเอกสาร ดูวิดีโอ ฟังเพลง และอื่นๆ อีกมากมาย
 
       ที่สำคัญกู เกิลมองว่าอนาคตทุกคนต้องทำงานผ่านเบราว์เซอร์เป็นหลัก ทำให้กูเกิล โครมถูกพัฒนาขึ้นเพื่อรองรับรูปแบบการใช้งานใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น และได้รับการปรับปรุงจนถึงรุ่นใหม่ล่าสุด
 
       กูเกิล โครมรุ่นใหม่ล่าสุดช่วยให้ผู้ใช้โต้ตอบกับเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ง่ายดาย และปลอดภัย โดยได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษเพื่อความเร็วสูงสุด เพื่อให้ผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์ที่ต้องการได้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ในเวอร์ชั่นใหม่นี้ทำงานได้เร็วกว่า 200% เมื่อเทียบกับเวอร์ชั่นทดลองใช้งานที่นำออกมาก่อนหน้านี้
 
       นอกจากนี้ กูเกิล โครมยังมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สนใจเฉพาะเนื้อหาเว็บได้เต็มที่โดยไม่ต้อง วุ่นวายกับเบราว์เซอร์ เช่น ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องแยกแยะความแตกต่างระหว่างการพิมพ์ที่อยู่เว็บ เช่น www.google.co.th/chrome กับการป้อนข้อความค้นหา เช่น 'ช่องทางใหม่ที่เร็วในการเข้าเว็บคืออะไร' เนื่องจากกูเกิล โครมรวมแถบการค้นหาและแถบที่อยู่เข้าไว้ด้วยกันด้านบนสุดของเบราว์เซอร์ ที่เรียกว่า 'แถบอเนกประสงค์' เพียงกดแป้นพิมพ์ไม่กี่ครั้งก็ไปถึงเว็บที่ต้องการ
 
       ด้านความปลอดภัยนั้น กูเกิล โครมมีโปรแกรม SafeBrowsing ฟีเจอร์ สำหรับตรวจจับมัลแวร์และฟิชชิ่งอัตโนมัติ แจ้งเตือนเว็บไซต์อันตรายทันที รวมถึงมีโปรแกรมอัปเกรดกูเกิล โครมเวอร์ชั่นล่าสุดที่ปลอดภัยมากที่สุดด้วย
 
       กูเกิลได้เหล่าพันธมิตรที่จะเข้ามาช่วยกันผลักดันให้กูเกิล โครมอยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์แทนที่เว็บเบราว์เซอร์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มทรู ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตรายใหญ่ที่สุดในเมืองไทย จะใช้กูเกิล โครมเป็นเบราว์เซอร์หลักบนคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในร้านอินเทอร์เน็ตกว่า 500 เครื่องทั่วประเทศ รวมทั้งเอสไอเอสซึ่งมีตัวแทนจำหน่ายคอมพิวเตอร์ในประเทศกว่า 3,000 แห่ง จะติดตั้งกูเกิล โครมไว้ในเครื่องพีซีที่วางจำหน่ายทั่วประเทศ ผู้ใช้ที่ซื้อคอมพิวเตอร์จะสามารถใช้กูเกิล โครมเพื่อเข้าถึงเว็บได้โดยอัตโนมัติ
 
       'ผู้ใช้ชาวไทยจะได้ใช้เว็บเบราว์เซอร์ได้ง่ายขึ้นจากความร่วมมือของพันธมิตรกูเกิล' พรทิพย์ กองชุน หัวหน้าฝ่ายการตลาดประจำประเทศไทย ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กูเกิล กล่าว
 
       ทลายกำแพง 'แชต'
       เอ็มเอสเอ็นบนมือถือธรรมดา
 
       จากจำนวนผู้ใช้งานโปรแกรมแชตวินโดวส์ไลฟ์ทั่วโลกที่มีทั้งสิ้นกว่า 303.4 ล้านคนในปัจจุบัน และในประเทศไทยมีถึง 6.5 ล้านคน โดยมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องเกือบร้อยละ 25 ในปีที่ผ่านมา อีกทั้งอัตราการเติบโตของจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์มือถือที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง
 
       ปัจจัยดังกล่าวที่เกิดขึ้นทำให้ไมโครซอฟท์มุ่งมั่นที่จะก้าวจากการเป็นผู้พัฒนา โปรแกรมแชตบนเครื่องคอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊กไปสู่โทรศัพท์มือถือ
 
       'ไมโครซอฟท์ ต้องการเพิ่มโอกาสและทางเลือกในการเข้าถึงเทคโนโลยี และยังตอบสนองความต้องการใช้งานโปรแกรมแชตของผู้ใช้ยุคใหม่ที่ต้องการสื่อ สารและส่งผ่านข้อมูลได้ตลอดเวลาทุกที่' มาร์ค บรินท์ ผู้จัดการทั่วไป แผนกคอนซูเมอร์และออนไลน์ ไมโครซอฟท์ เอเชียแปซิฟิก กล่าว
 
       ไมโครซอฟท์ จึงได้ร่วมมือกับ
เอไอเอส (AIS) และนำจุดแข็งของทั้งสองบริษัทมาผสานกัน เพื่อต่อยอดธุรกิจร่วมกันในการขยายฐานลูกค้าและเพื่อทำให้ผู้ใช้มือถือเอไอ เอสสามารถแชตได้ทุกที่ทุกเวลา ด้วยการออกนวัตกรรมซิมรูปแบบใหม่ 'Chat Sim' ขึ้นเป็นครั้งแรกในเอเชีย ด้วยการนำโปรแกรมยอดนิยม 'แชตวินโดวส์ไลฟ์' เข้าไปไว้ในซิมการ์ด ทำให้ผู้ใช้มือถือสามารถออนเอ็มได้ทันทีตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านเมนูในซิม โดยไม่ต้องเชื่อมต่อ GPRS และ ไม่ต้องลงโปรแกรมเพิ่ม อีกทั้งยังใช้งานได้กับมือถือธรรมดาที่ไม่จำเป็นต้องเป็นสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ยังสามารถอัปเดตเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ได้ง่ายๆ ด้วย
 
       อเนก อนันต์วัฒนพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลุ่มลูกค้าพรีเพด เอไอเอส กล่าวว่า นอกจากแชตซิมจะเป็นนวัตกรรมใหม่แล้ว ยังมีอัตราค่าบริการคุ้มด้วย เพราะแชตได้ไม่จำกัดโดยไม่ต้องเสียค่า GPRS มีเพียงค่าบริการ 17 บาทต่อสัปดาห์เท่านั้น เฉลี่ยวันละไม่ถึง 2.50 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ถูกที่สุดเมื่อเทียบกับราคาเครื่องสมาร์ทโฟนหรือค่าซื้อชั่ว โมงอินเทอร์เน็ตตามร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ทั่วไป นอกจากนี้ยังมีค่าโทร.ในอัตราพิเศษในกลุ่มแชตซิมด้วยกัน เพียงนาทีละ 50 สตางค์ ตลอด 24 ชั่วโมงตั้งแต่นาทีแรก
 
       'เรา เชื่อว่าแชตซิมนี้ตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดี เนื่องจากส่วนใหญ่ผู้ใช้เอ็มจะใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊ก ทำให้ไม่สะดวกในการใช้งาน' สมชัย เลิศสุทธิวงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการตลาด เอไอเอส กล่าว

0 ความคิดเห็น สำหรับ "2 ยักษ์ใหญ่วงการไอที กับปฏิบัติการทำลายกำแพง"

ร่วมแสดงความคิดเห็น

Daily Video

2010 BlogNews Magazine. All Rights Reserved. - Designed by SimplexDesign